7 กิจกรรมน่าทำรอบๆ ฮิเมจิ & ที่พักแรม
ฮิเมจิมีชื่อเสียงมาจากปราสาทที่สวยงาม เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีวัดพุทธอันแสนน่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ในหน้าเว็บไซต์นี้คุณจะพบข้อมูลต่อไปนี้:
— กิจกรรมยอดเยี่ยมภายใน & รอบๆ ฮิเมจิ
— พื้นที่ยอดเยี่ยมในการเข้าพักที่ฮิเมจิ
— วางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคุณ
ฮิเมจิตั้งอยู่ห่างจากโอซาก้าไปทางตะวันตกไม่เกิน 100 กม. ถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก เนื่องจากมีปราสาทดั้งเดิมอันโดดเด่นเพียงแห่งเดียว ที่ยังหลงเหลืออยู่ และมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รวมถึงยังถือว่าสวยงามที่สุดอีกด้วย – ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติและเป็นมรดกโลก นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับสวนโคคุเอ็นอันแสนสวยงาม พร้อมกับวัดพุทธโชชาซัน เอ็นเกียวจิ ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล สถานที่ท่องเที่ยวทั้งสามแห่งนี้ ถือเป็นสถานที่หลักๆ ที่น่าสนใจในฮิเมจิ ทำให้เกิดเป็นแผนการเดินทางหนึ่งวันอันน่าประทับใจ
นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวทั้งสามแห่งนี้แล้ว ฮิเมจิยังไม่มีอะไรน่าสนใจมากมายนักสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นความคิดที่ดี ที่จะรวมการท่องเที่ยวที่ฮิเมจิของคุณเข้ากับสถานที่ใกล้เคียง เช่น โกเบ โอซาก้า เกียวโต และนารา หรือแม้แต่ฮิโรชิม่าซึ่งอยู่ห่างจากฮิเมจิไปทางตะวันออกประมาณ 240 กม. แต่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วโดยใช้รถไฟซันโย ชินคันเซ็น – ดูรายละเอียดด้านล่าง
ฮิเมจิตั้งอยู่ที่ไหน?
ฮิเมจิเป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดเฮียวโกะ ของภูมิภาคชูโกคุทางตะวันตกของญี่ปุ่น เมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดคือโกเบ – ห่างกันประมาณ 60 กม. ไปทางตะวันออกของสถานีฮิเมจิ – โดยมีโอซาก้าตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก – ประมาณ 95 กม. จากฮิเมจิ ทางทิศตะวันตก โอคายามะอยู่ห่างจากฮิเมจิประมาณ 95 กม. ในขณะที่ฮิโรชิมะตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกประมาณ 240 กม. ฮิเมจิและเมืองต่างๆ ที่กล่าวถึง เช่น โอซาก้า โกเบ โอคายามะ และฮิโรชิม่า ต่างก็เป็นจุดจอดของรถไฟสาย ซันโย ชินคันเซ็น ทำให้สามารถเดินทางระหว่างเมืองได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มุ่งหน้าไปฮิเมจิ มักจะเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับหรือค้างคืน ก่อนที่จะไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป
กิจกรรมยอดเยี่ยมภายใน & รอบๆ ฮิเมจิ
หากคุณกำลังพิจารณาที่จะมุ่งหน้าไปยังฮิเมจิ ปราสาทแห่งนี้แทบจะเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงของเมืองที่ดึงดูดให้คุณมาเยี่ยมชมอย่างแน่นอน ในฐานะปราสาทดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดของญี่ปุ่น ฮิเมจิยังถือว่าสวยงามที่สุดและคุ้มค่ากับการพยายามไปที่นั่น ขณะที่อยู่ในฮิเมจิ สวนโคโคเอ็นและโชฉะซัง เอ็นเกียวจิ ถือเป็นสถานที่ติดอันดับหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าที่สุดในภูมิภาค ผสมผสานกันเพื่อสร้างการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับที่สนุกสนาน แต่นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นแล้ว ฮิเมจิก็ไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก แต่ก็สามารถท่องเที่ยวร่วมกันกับจุดหมายปลายทางดีๆ อื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงอย่าง โกเบ โอซาก้า และที่อื่นๆ ได้ โดยมาเริ่มกันที่จุดหมายปลายทางแห่งเดียว ที่เป็นตัวกำหนดให้ชื่อของฮิเมจิอยู่บนแผนที่:
1 / ปราสาทฮิเมจิ / ตลอดทั้งปี
ปราสาทฮิเมจิได้รับสถานะเป็นมรดกโลกในปี 1993 และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าประทับใจที่สุดในบรรดาโครงสร้างปราสาทศักดินาที่ยังคงหลงเหลือเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น เป็นปราสาทที่มีผู้เยี่ยมชมเยอะที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ประกอบด้วยห้อง 83 ห้อง พร้อมด้วยระบบป้องกันกำแพงและคูน้ำที่เป็นรากฐานอันยิ่งใหญ่ แม้ว่าโครงสร้างที่มีป้อมปราการจะตั้งตระหง่านมานานหลายศตวรรษ แต่ปราสาทในปัจจุบันมีอายุย้อนไปถึงปี 1609 ทำให้เป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมที่เก่าแก่และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม ในบรรดาปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงเหลืออยู่ ตัวปราสาทได้รับการปรับปรุงใหม่อย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้อีกครั้งในปี 2015 ในปัจจุบัน ผู้เยี่ยมชมจะได้รับการต้อนรับด้วยวิธีการเดินบนเส้นทางคล้ายเขาวงกตตรงเข้าไปยังปราสาท รวมถึงทางเดินและประตูที่คดเคี้ยวหลายชุด ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกของการสำรวจและการค้นพบ
ปราสาทฮิเมจิมักถูกเรียกว่า ‘ฮาคุโระ-โจว’ หรือ ‘ชิราซากิ-โจว’ แปลว่า ‘ปราสาทนกกระยางขาว’ และ ‘ปราสาทนกกระสาขาว’ ตามลำดับ ชื่อนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกำแพงสีขาวล้วนและกระเบื้องหลังคายกขึ้นที่หลายๆ คนเชื่อกันว่ามีลักษณะคล้ายนกที่กำลังกางปีกบิน คล้ายกับว่าปราสาทแห่งนี้จะยกขึ้นจากพื้นดินและลอยอยู่เหนือโลกเบื้องล่าง ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นและถ่ายรูปได้สวยงามที่สุดในภูมิภาค
เปิดทุกวันตั้งแต่ 09.00 – 17.00 (หรือจนถึง 18.00 ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม) รอบเข้าชมครั้งสุดท้ายคือ 30 นาทีก่อนปิด สวนจะปิดให้บริการ 2 วันในช่วงวันที่ 29 – 30 ธันวาคม มีค่าเข้าชม 1,000 เยน และสามารถซื้อตั๋วเข้าชมปราสาทร่วมกับชมสวนโคโคเอ็นได้ในราคา 1,050 เยน คุณสามารถไปถึงปราสาทได้ด้วยการเดินเท้าจากสถานีฮิเมจิ ออกจากสถานีจากทางออกทิศเหนือ เดินตามป้ายไปยังปราสาท ตรงตามถนนโอเทมาเอะ (ถนนโอเตมาเอะ) – เดินประมาณ 15 – 20 นาที หรือนั่งรถบัส 5 นาที / 100 เยน หรือแท็กซี่จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 750 เยน
2 / สวนโคโคเอ็น / ตลอดทั้งปี
โคโคเอ็นเป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ค่อนข้างใหม่แต่ยังคงความสวยงาม ตั้งอยู่ติดกับปราสาท สวนแห่งนี้เปิดในปี 1992 ตั้งอยู่บนที่พักอาศัยเดิมของขุนนางศักดินา และประกอบไปด้วยสวนที่มีกำแพงล้อมรอบ 9 แห่ง แต่ละแห่งได้รับการออกแบบในสไตล์ที่สะท้อนถึงสมัยเอโดะ (1603-1868) สวนนี้ครอบคลุมพื้นที่ 3.5 เฮกตาร์ ผสมผสานภาพของภูมิทัศน์ที่แตกต่างกัน รวมถึง ‘สวนพิธีชงชา’ ซึ่งผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินกับการนั่งดื่มชาและของว่างแบบดั้งเดิมในบ้านน้ำชา ‘โซจูอัน’ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถเลือกเข้าร่วมพิธีชงชาแบบดั้งเดิมในขณะอยู่ที่นั่นได้
การออกแบบสวน จะใช้ซากกำแพงและทางเดินจากอาคารสมัยศตวรรษที่ 16 ก่อนหน้านี้ เป็นการจัดวางสวนทั้ง 9 แห่งให้มีลักษณะเป็นเหมือนน้ำ รวมถึงน้ำตกในสระ ‘ปลาคาร์ป’ ที่อยู่ตรงกลาง สวนไผ่ พร้อมกับต้นสนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม การออกแบบโดยรวมมีจุดมุ่งหมายเพื่อสะท้อนถึงฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่น ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาของปีจะทำให้สวนมีความงามของตัวเอง ช่วงเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคือตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่จะมีใบไม้เปลี่ยนสีโดดเด่นสะดุดตา
เปิดทุกวันตั้งแต่ 09.00 น. – 17.00 น. (หรือถึง 18.00 น. ช่วงกลางเดือนเมษายน – สิ้นเดือนสิงหาคม) รอบเข้าชมสุดท้ายคือ 30 นาทีก่อนปิด โดยสวนจะปิดให้บริการ 2 วันในช่วงวันที่ 29 – 30 ธันวาคม มีค่าเข้าชม 310 เยน และสามารถซื้อตั๋วเข้าชมสวนพร้อมกับปราสาทร่วมกันได้ในราคา 1,050 เยน สวนตั้งอยู่ติดกับปราสาท
3 / โชซะคัง เอ็นเกียว-จิ / ตลอดทั้งปี
วัดเอนเกียวจิ ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 30 นาที เป็นวัดที่สวยงามซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี อาคารหลายหลังประกอบกันเป็นกลุ่มวัด รวมถึงประตู ‘นิโอมง’, ‘มานิเด็น’ ซึ่งเป็นวัดที่วางอยู่บนเสาและมองเห็นทางลาดชัน และ ‘มิทสึโนะ-โด’ – ห้องโถงขนาดใหญ่สามแห่งของวัด รวมถึง ‘ไดโกะ-โด ‘ (ห้องโถงหลัก), ‘จิกิ-โด’ (ที่พักและห้องอาหารแบบดั้งเดิม) และ ‘โจเกียว-โด (ห้องโถงฝึกอบรม)
สามารถเข้าถึงกลุ่มอาคารวัดได้โดยการนั่งกระเช้าลอยฟ้าภูเขาโชฉะ (โชฉะซัน) – ดูรายละเอียดที่ด้านล่าง ตั้งอยู่ห่างจากสถานีด้านบนของกระเช้าลอยฟ้า โดยใช้เวลาเดินเพียง 10 – 15 นาที อาคารต่างๆ ของวัดนั้นกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ป่าหนาทึบ โดยจะมีโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่เล็กๆ น้อยๆ อยู่รอบตัวอาคาร ทำให้พื้นที่โดยรวมจึงยังคงรักษาลักษณะทางประวัติศาสตร์เอาไว้ มักถูกใช้สำหรับการผลิตรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ วัดเอนเกียวจิเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 27 จากทั้งหมด 33 แห่ง ซึ่งประกอบขึ้นเป็นเส้นทาง ‘แสวงบุญคันนง’ ในเขตไซโกคุ วัดเอนเกียวจิถือเป็นหนึ่งในวัดที่ถ่ายรูปสวยที่สุดในญี่ปุ่น เข้ากันได้ดีกับการเยี่ยมชมปราสาทอันโด่งดังของฮิเมจิ หากต้องการเดินทางไปยังบริเวณวัด อย่าพลาดที่จะขึ้นกระเช้าลอยฟ้าภูเขาโชฉะ – ดูรายละเอียดด้านล่างรวมถึงวิธีการเดินทาง
4 / กระเช้าลอยฟ้าภูเขาโชฉะ (โชฉะซัน) / ตลอดทั้งปี
กระเช้าลอยฟ้าภูเขาโชฉะ (โชฉะซัน) เป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงกลุ่มวัดเอ็นเกียว-จิ ดังนั้นใครก็ตามที่ต้องการมุ่งหน้าไปยังวัดที่มีชื่อเสียง จะต้องไม่พลาดที่จะขึ้นกระเช้าแห่งนี้อย่างแน่นอน ถือเป็นกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมรวมถึงยังเปิดทางเลือกในการเดินทางไปตามเส้นทางของภูเขาโชฉะ ซึ่งกระเช้าลอยฟ้าเปิดให้เข้าถึงได้ตลอดเวลาของปี รถกระเช้าขนาดใหญ่สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 60 คน มองเห็นทิวทัศน์อันตระการตาได้เมื่อคุณขึ้นไปยังสถานีด้านบน กระเช้าลอยฟ้าให้บริการตลอดทั้งปีโดยจะมีเวลาทำการที่แตกต่างกัน จะเริ่มให้บริการตั้งแต่เวลา 08:30 – 17:45 ตั้งแต่เดือนมีนาคม – กลางเดือนตุลาคม และจนถึง 16:45 น. ตั้งแต่ครึ่งหลังของเดือนตุลาคม – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ กระเช้าคันสุดท้ายจะกลับลงมาถึงภายใน 15 นาทีหลังจากออกตัว และจะมีการขยายเวลาออกไปในบางวัน เช่น บางวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าโดยสารเที่ยวเดียวราคา 600 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 300 เยน สำหรับเด็ก หรือ 1,000 เยน / 500 เยน สำหรับตั๋วไป-กลับ หากต้องการขึ้นกระเช้า ให้ใช้บริการรถบัส ‘8 – กระเช้าภูเขาโชฉะ’ จากป้ายรถประจำทางหมายเลข 10 ด้านนอกทางออกทิศเหนือของสถานีฮิเมจิ สามารถขึ้นรถบัสได้ที่ป้ายที่ปราสาทฮิเมจิ ใช้เวลาเดินทาง 25 – 30 นาทีเพื่อไปถึงกระเช้าลอยฟ้า โดยให้บริการทุกๆ 20 นาที มีค่าใช้จ่าย 280 เยน สำหรับเที่ยวเดียว
5 / เยี่ยมเยียนโกเบ / ตลอดทั้งปี
เพียง 15 นาทีจากฮิเมจิ โดยใช้รถไฟชินคันเซ็นซันโยไปยังสถานีชินโกเบ โกเบเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและสามารถเดินสำรวจได้ รวมถึงย่านประวัติศาสตร์อย่างคิตาโนะโจ และนันคินมาจิ อ่าวทันสมัยและย่านท่าเรือ อยู่ไกลออกไปอีกเล็กน้อย และ ‘สาเก’ อำเภอนาดา หน้า ’15 กิจกรรมน่าทำรอบๆ โกเบและที่พักอาศัย’ ของเรา มีคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ และพื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเข้าพัก รวมทั้งรายการที่พักแนะนำด้วย
6 / เยี่ยมเยียนฮิโรชิม่า / ตลอดทั้งปี
สถานีฮิโรชิม่าอีกแห่งบนสายซันโยชินคันเซ็น ตั้งอยู่ห่างจากฮิเมจิประมาณ 60 นาที แน่นอนว่าผู้มาเยือนฮิโรชิม่าจะได้รับรู้ประวัติศาสตร์อันน่าเศร้าของเมืองนี้ ซึ่งครอบครองสถานที่ที่ฉุนเฉียวในจิตสำนึกระดับโลก และเป็นประวัติศาสตร์ที่ได้รับการรำลึกอย่างสวยงามโดยพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า หน้า ’15 กิจกรรมน่าทำรอบๆ ฮิโรชิม่าและที่อยู่อาศัย’ ของเรา มีคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ และพื้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเข้าพัก รวมถึงรายการที่พักแนะนำด้วย
7 / เยี่ยมเยียนโอซาก้า, เกียวโต & นารา / ตลอดทั้งปี
สถานีชิน-โอซาก้า เป็นปลายทางด้านตะวันออกของสายซันโยชินคันเซ็น อยู่ห่างจากฮิเมจิประมาณ 30 นาที เมืองโอซาก้า เกียวโต และนารา ถือเป็นเขตแดนทางตะวันตกและตอนกลางของญี่ปุ่น ถูกยอมรับให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยมีสถานที่ที่เหมาะกับการท่องเที่ยว และประสบการณ์ที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น หน้า ’40 กิจกรรมน่าสนใจในเกียวโต นารา และโอซาก้า’ ของเรา มีคำแนะนำที่ดีเกี่ยวกับสิ่งที่นำเสนอและพื้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเข้าพักรวมถึงรายการที่พัก
พื้นที่ยอดเยี่ยมในการเข้าพักที่ฮิเมจิ
เมื่อมาท่องเที่ยวที่ฮิเมจิ บริเวณรอบๆ สถานีฮิเมจิ มีที่พักให้เลือกมากมาย โดยส่วนใหญ่อยู่ไม่ไกลจากสถานี:
บริเวณสถานีฮิเมจิ
นักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืนในฮิเมจิ จะต้องจองที่พักในบริเวณรอบๆ สถานีฮิเมจิอย่างดีที่สุด เนื่องจากเป็นป้ายหยุดบนสายซันโยชินคันเซ็นซึ่งวิ่งจากสถานีชินโอซาก้า ไปยังสถานีฮากาตะ ฮิเมจิจึงง่ายต่อการเดินทางไปกลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ใกล้สถานี ในบริเวณนี้มีที่พักมากมายตั้งอยู่ในเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมสไตล์ตะวันตกขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ รวมถึงโรงแรมสำหรับธุรกิจด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมรวมทั้งรายการที่พัก โปรดดูที่หน้าโรงแรม ‘บริเวณสถานีฮิเมจิ’ ของเรา
วิธีเดินทางไปยังฮิเมจิ
สถานีฮิเมจิเป็นหนึ่งในจุดจอดที่สะดวกสบายบนสายซันโยชินคันเซ็น จึงง่ายต่อการเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ของเมือง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี หน้า ‘วิธีเดินทางไปฮิเมจิ’ ของเรา มีข้อมูลทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับวิธีการเดินทางจากจุดเริ่มต้นอย่าง โกเบ โอซาก้า โตเกียว และอื่นๆ
วางแผนท่องเที่ยวญี่ปุ่น
การเดินทางไปฮิเมจิโดยใช้รถไฟนั้นจะรวดเร็ว ง่ายดาย และสะดวกสบาย ด้วยขนาดและประสิทธิภาพที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ การเดินทางไปทั่วประเทศด้วยรถไฟ ถือเป็นวิธีที่ดีในการเปิดกว้างการสำรวจทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น หน้า ‘วางแผนการท่องเที่ยวของคุณ’ ในเว็บไซต์ของเรา มีทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการไปเยือนญี่ปุ่น ตั้งแต่เคล็ดลับเกี่ยวกับเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง การเข้าออกประเทศ เรื่องสกุลเงิน การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ที่พัก การอยู่อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี ข้อมูลมากมายเตรียมไว้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเมื่อมาท่องเที่ยวญี่ปุ่น